หนึ่งในคำถามที่เจ้าของแมวหลายคนสงสัยคือ “ควรให้อาหารแมววันละกี่มื้อดี?” บางคนให้อาหารแค่เช้าหรือเย็น บางคนวางอาหารไว้ตลอดทั้งวัน บางคนใช้วิธีผสม แล้วแบบไหนดีที่สุด?
คำตอบคือ ไม่มีคำตอบเดียวที่ใช้ได้กับแมวทุกตัว เพราะความเหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ พฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ ประเภทอาหาร และสุขภาพของแมวแต่ละตัว
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจทุกแง่มุมของการกำหนด “จำนวนมื้ออาหารแมวต่อวัน” โดยรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ งานวิจัย และคำแนะนำจากสัตวแพทย์ มาครบในที่เดียว
ปัจจัยที่กำหนดว่าแมวควรกินกี่มื้อต่อวัน
ก่อนจะตัดสินใจตารางอาหารของแมว ลองพิจารณาปัจจัยเหล่านี้:
- อายุ: ลูกแมวต้องการพลังงานสูงและกระเพาะเล็ก ควรกินวันละ 3–5 มื้อจนถึง 6 เดือน จากนั้นลดเหลือ 2–3 มื้อจนถึง 1 ปี
- น้ำหนัก: แมวอ้วนหรือผอมเกินไปต้องปรับตารางอาหารให้เหมาะสม
- พฤติกรรม: แมวที่กระตือรือร้นหรือชอบวิ่งเล่นต้องการพลังงานมากกว่าแมวที่นอนทั้งวัน
- แมวบ้าน vs แมวนอกบ้าน: แมวนอกบ้านใช้พลังงานมากกว่าจึงอาจต้องการอาหารมากกว่า โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว
- สุขภาพ: โรคบางอย่าง เช่น เบาหวาน หรือไต อาจต้องควบคุมมื้ออาหารและเวลาการกินอย่างเข้มงวด
แมวควรกินวันละกี่มื้อ?
✅ คำแนะนำทั่วไป
- แมวโตสุขภาพดี: วันละ 2 มื้อ เป็นมาตรฐานที่เหมาะสมที่สุด
- แมวที่กินยาก / หิวบ่อย: วันละ 3–4 มื้อ อาจเหมาะกว่า
- แมวที่ควบคุมน้ำหนักได้ดี: อาจใช้การ วางอาหารไว้ตลอด (free feeding) ได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณ
- ลูกแมว: วันละ 3–5 มื้อ
📌 งานวิจัยพบว่า การให้อาหารวันละหลายมื้อช่วยให้แมวเคลื่อนไหวมากขึ้น และมีพฤติกรรมใกล้เคียงธรรมชาติมากขึ้น เช่น วิ่งเล่นก่อนถึงเวลาอาหาร
เปรียบเทียบ 3 วิธีให้อาหารแมว
วิธีให้อาหาร | ข้อดี | ข้อเสีย |
ให้อาหารเป็นมื้อ | ควบคุมปริมาณได้ดี / สังเกตสุขภาพแมวง่าย / เหมาะกับบ้านที่มีแมวหลายตัว | แมวบางตัวอาจร้องหิวระหว่างมื้อ |
วางอาหารไว้ตลอด | แมวกินได้ตามสบาย / สะดวกสำหรับเจ้าของ | เสี่ยงอ้วน / ควบคุมไม่ได้ว่าแมวกินมากน้อยแค่ไหน |
ให้อาหารแบบผสม | ได้ประโยชน์จากทั้งอาหารเปียกและเม็ด / แมวไม่หิวบ่อย | ต้องระวังการกินเกิน / ควบคุมยากในบ้านที่มีแมวหลายตัว |

การให้อาหารเปียก vs อาหารเม็ด
- อาหารเปียก: เสริมความชุ่มชื้น เหมาะกับแมวที่ดื่มน้ำน้อย หรือมีปัญหาทางเดินปัสสาวะ
- อาหารเม็ด: เก็บได้นาน ดีต่อฟันแมว และสะดวกกว่าในการวางไว้ทั้งวัน
- หากใช้ ทั้งสองแบบร่วมกัน ควรคำนวณแคลอรี่รวมต่อวันให้ดี
ตารางเวลาการให้อาหารมีความสำคัญอย่างไร?
- ช่วยให้แมวรู้สึกมั่นคง และสร้างกิจวัตรประจำวัน
- สังเกตอาการผิดปกติได้ง่าย เช่น กินน้อยลง เหลืออาหารในถ้วย
- ช่วยปรับตัวในช่วงมีการเปลี่ยนแปลงในบ้าน เช่น ย้ายบ้าน หรือมีสมาชิกใหม่
- เหมาะสำหรับการควบคุมโรค เช่น เบาหวาน ที่ต้องกินยาและอาหารตามเวลา
💡 ช่วงเวลาก่อนอาหารเป็นช่วงที่ดีในการฝึกแมว แปรงขน หรือตัดเล็บ เพราะแมวจะเชื่อมโยงกับรางวัล
กรณีแมวชอบกินเรื่อย ๆ ทั้งวัน
ถ้าแมวคุณกินได้เรื่อย ๆ โดยไม่อ้วน คุณอาจใช้วิธีวางอาหารไว้ทั้งวันก็ได้ แต่ควรตวงปริมาณไว้ล่วงหน้า และไม่เติมจนกว่าจะถึงวันถัดไป
อีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจคือ การใช้ของเล่นปริศนาใส่อาหาร (puzzle feeder) ที่ช่วยกระตุ้นสมองแมวและชะลอความเร็วในการกิน
ตัวอย่างตารางอาหารแมว
น้ำหนักแมว | ปริมาณอาหารเม็ดต่อวัน |
5–9 ปอนด์ | 1/3 – 2/3 ถ้วย |
10–14 ปอนด์ | 3/4 – 1 ถ้วย |
หมายเหตุ: ปรับตามสูตรอาหารและพฤติกรรมของแมวของคุณ
สรุป: แมวกินวันละกี่มื้อดีที่สุด?
- แมวโต: วันละ 2 มื้อ เป็นพื้นฐานที่ดี
- ลูกแมว: วันละ 3–5 มื้อ
- แมวหิวบ่อย / เคลื่อนไหวน้อย / อ้วนง่าย: เลือกตารางมื้อและปริมาณอย่างระมัดระวัง
- แมวที่กินอาหารดิบหรือเปียก: ต้องให้อาหารแบบมื้อ และห้ามวางทิ้งไว้ทั้งวัน
- บ้านที่มีแมวหลายตัว: อาจต้องแยกจุดให้อาหาร / ใช้กรงแยกชั่วคราว
ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน อย่าลืมว่า การตวงอาหารล่วงหน้า และการสังเกตพฤติกรรมการกิน คือกุญแจสู่แมวสุขภาพดี
✅ ปรึกษาสัตวแพทย์เสมอ หากคุณไม่แน่ใจเรื่องปริมาณอาหาร ตารางมื้อ หรือหากแมวมีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน