แมวเลียตัวบ่อยผิดปกติ: สาเหตุ พฤติกรรม และวิธีรับมืออย่างละเอียด

ทีมแมวรัก

แมวรักดำเนินงานด้วยการสนับสนุนจากผู้อ่าน เมื่อคุณซื้อสินค้าผ่านลิงก์ในเว็บไซต์ของเรา เราอาจได้รับค่าคอมมิชชันในฐานะพันธมิตร โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับคุณ เรียนรู้เพิ่มเติม

แมวลายเสือกำลังเลียอุ้งเท้าขณะนอนบนเก้าอี้สีขาว

สารบัญ

สาระสำคัญ

การเลียขนตัวเองเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของแมว แต่หากแมวเลียตัวบ่อยผิดปกติจนเกิดผิวแดง ขนร่วง หรือเป็นแผล อาจมีสาเหตุแฝงที่ต้องใส่ใจ เช่น ความเครียด อาการแพ้ หรือโรคทางร่างกาย
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจพฤติกรรมนี้อย่างลึกซึ้ง พร้อมแนวทางสังเกต อธิบายสาเหตุ และวิธีช่วยเหลือเจ้าเหมียวให้กลับมามีความสุขอีกครั้ง


การเลียขนปกติของแมวเป็นอย่างไร?

แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดอย่างยิ่ง พวกมันอาจใช้เวลาตื่นถึง 30–50% ไปกับการเลียขน ทำความสะอาดตัวเอง และกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
ลิ้นของแมวมีตุ่มหนามเล็ก ๆ หันไปด้านหลัง ช่วยให้เลียขนได้มีประสิทธิภาพ คล้ายแปรงขัดผิว

การเลียยังมีประโยชน์อื่น ๆ เช่น:

  • กระจายน้ำมันธรรมชาติให้ขนเงางาม
  • ควบคุมอุณหภูมิ (โดยให้น้ำลายระเหย)
  • สร้างความสัมพันธ์ทางสังคม เช่น แม่เลียลูก หรือแมวที่สนิทเลียกัน
  • ช่วยให้แมวผ่อนคลาย รู้สึกปลอดภัย

แต่ถ้าแมวเลียจนผิวแดง ขนบาง หรือเลียตลอดเวลาโดยไม่มีสิ่งกระตุ้น อาจเข้าข่าย พฤติกรรมเลียตัวมากเกินไป


จะรู้ได้อย่างไรว่าแมวเลียตัวมากเกินไป?

สัญญาณของพฤติกรรมเลียตัวผิดปกติ ได้แก่:

  • ขนร่วงเป็นหย่อม โดยเฉพาะที่ หน้าท้อง, ขาหน้าด้านใน, หรือ ต้นขา
  • ขนสั้นแบบไม่สม่ำเสมอ คล้ายทรงหัวเกรียน
  • ผิวหนังแดง ถลอก เป็นแผล หรือมีสะเก็ด
  • แมวเลียบริเวณเดิมซ้ำ ๆ
  • พฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น ซึม เบื่ออาหาร ไม่อยากเล่น
  • เลียเฉพาะตอนเจ้าของไม่อยู่ (พฤติกรรมซ่อนเร้น)

หากสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุทันที


แมวสีเทาขาวกำลังเลียขาหน้าขณะนั่งบนพรมลายสวย
แมวกำลังเลียขนตัวเองบริเวณขาหน้า เป็นพฤติกรรมปกติที่ช่วยรักษาความสะอาด

สาเหตุที่ทำให้แมวเลียตัวบ่อยผิดปกติ

พฤติกรรมนี้มีทั้งสาเหตุทางกายภาพและทางจิตใจ โดยสามารถจำแนกได้เป็นหมวดหมู่หลัก ๆ ดังนี้:

1. อาการแพ้ (Allergy)

แมวอาจแพ้อาหาร, หมัด, ละอองเกสร, ฝุ่น, หรือสารเคมีในสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดอาการคัน จนแมวเลียผิวหนังบริเวณนั้นซ้ำ ๆ

  • ตัวกระตุ้นที่พบบ่อย: โปรตีนในอาหาร เช่น ไก่ ปลา, น้ำหอม, ผงซักฟอก
  • แนวทางรักษา: ทดลองเปลี่ยนอาหาร (elimination diet), ใช้ยารักษาภูมิแพ้, หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

2. ปรสิต (Parasites)

หมัด ไรขน หรือเห็บสามารถทำให้เกิดอาการคันเฉพาะจุด โดยเฉพาะบริเวณท้องและหลัง ทำให้แมวเลียจนเป็นแผล

  • แนวทางรักษา: ใช้ยาป้องกันหมัด-เห็บเป็นประจำแม้จะไม่เห็นหมัด, หมั่นตรวจร่างกายแมว

3. การติดเชื้อ (Infections)

การติดเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ หรือเชื้อรา เช่น กลาก อาจทำให้ผิวหนังอักเสบและคัน

  • แนวทางรักษา: ตรวจผิวหนังด้วยกล้องจุลทรรศน์, ใช้ยาฆ่าเชื้อ, แชมพูเฉพาะทาง

4. ความเครียด และ Psychogenic Alopecia

เมื่อแมวเครียด พวกมันอาจเลียตัวเองเพื่อปลอบใจ ซึ่งหากเครียดเรื้อรัง อาจกลายเป็นพฤติกรรมหมกมุ่น (obsessive-compulsive)

  • ปัจจัยกระตุ้น: ย้ายบ้าน, เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์, มีสัตว์เลี้ยงใหม่, เจ้าของไม่อยู่บ้าน
  • แนวทางรับมือ:
    • ใช้ Feliway หรือปลอกคอฟีโรโมน
    • สร้างตารางกิจวัตรที่สม่ำเสมอ
    • เล่นบำบัดอย่างสม่ำเสมอ
    • จัดสิ่งแวดล้อมให้แมวรู้สึกปลอดภัยและมีมุมส่วนตัว

5. อาการเจ็บปวดภายใน

แมวที่มีโรคภายใน เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ, ลำไส้อักเสบ, ตับอ่อนอักเสบ หรือข้อเสื่อม อาจเลียบริเวณที่เจ็บ เช่น ท้อง ข้อขา

  • แนวทางรักษา: ตรวจเลือด, ปัสสาวะ, อัลตราซาวด์ หาสาเหตุและรักษาตามอวัยวะที่เกี่ยวข้อง

6. ฮอร์โมนผิดปกติ

โรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกินอาจกระตุ้นให้แมวเลียตัวผิดปกติ พร้อมอาการน้ำหนักลด กินเยอะ ซึม

  • แนวทางรักษา: ตรวจฮอร์โมนและใช้ยาควบคุม

7. มะเร็งผิวหนัง

ในบางกรณี แมวเลียบริเวณที่มีเนื้องอกโดยไม่รู้ตัว อาจพบขนแห้ง เปราะ และผิวหนังผิดปกติ

  • แนวทางรักษา: ตรวจร่างกายโดยสัตวแพทย์ ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ

แมวสีเทากำลังเลียอุ้งเท้าหน้าขณะนั่งข้างหน้าต่าง
แมวสีเทากำลังเลียตัวเองอย่างตั้งใจใกล้หน้าต่างที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้า

ขั้นตอนวินิจฉัยโดยสัตวแพทย์

  • ตรวจร่างกายทั่วไป
  • ขูดผิวหนัง ตรวจกล้องจุลทรรศน์
  • ตรวจหาเชื้อรา, ตรวจเลือด, ตรวจปัสสาวะ
  • หากจำเป็น อาจตัดชิ้นเนื้อหรือส่งต่อผู้เชี่ยวชาญ

หากไม่พบสาเหตุทางกายภาพ และพฤติกรรมเลียยังคงอยู่ อาจวินิจฉัยว่าเป็น psychogenic alopecia ซึ่งต้องใช้วิธีทางพฤติกรรมร่วมกับยาควบคุมอารมณ์ชั่วคราว


วิธีดูแลและลดพฤติกรรมเลียมากเกินไป

  • เล่นกับแมวทุกวัน เพื่อระบายพลังงานและลดความเบื่อ
  • เสริมสิ่งแวดล้อม: ที่ลับเล็บ, ที่นั่งชมวิว, ของเล่น, กิ่งแคทนิป
  • คงกิจวัตรประจำวัน เช่น เวลาให้อาหารและเล่นให้ตรงเวลา
  • ใช้ฟีโรโมนช่วยผ่อนคลาย ทั้งแบบสเปรย์และปลั๊กเสียบ
  • อย่าลงโทษแมวที่เลียตัว ให้หาสาเหตุและดูแลด้วยความเข้าใจ
  • ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนให้ยาหรืออาหารเสริมใด ๆ
  • ใช้ยาคลายเครียดเฉพาะกรณีรุนแรง โดยสัตวแพทย์สั่งและติดตามอาการ

สรุป

พฤติกรรมแมวเลียตัวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้า แมวเลียตัวบ่อยผิดปกติ หรือจนผิวหนังเกิดปัญหา ต้องรีบตรวจสอบ เพราะอาจมีสาเหตุซ่อนอยู่ทั้งทางกายและจิตใจ
การเข้าใจสาเหตุอย่างถ่องแท้ และดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของแมวอย่างใส่ใจ จะช่วยให้เจ้าเหมียวกลับมาร่าเริงและมีชีวิตที่มีคุณภาพอีกครั้ง

สมัครรับจดหมายข่าวของเรา

รับเคล็ดลับการเลี้ยงแมว บทความใหม่ๆ และสิทธิพิเศษส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุกสัปดาห์